4 ปัญหาผิวที่มาพร้อมอากาศร้อน พร้อมวิธีรับมืออย่างอยู่หมัด

ประเทศไทยกับอากาศร้อนอบอ้าวเรียกได้ว่าเป็นของคู่กันถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นในฤดูร้อนและเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วก็ตามแต่อากาศในประเทศไทยยังคงสูงเกิน 30 องศาเซลเซียส ซึ่งนอกจากความร้อนที่ทำให้รู้สึกผิวที่ถูกไหม้แล้ว หลายคนอาจจะกังวลถึงปัญหาผิวหนังอย่าง ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำเมื่อตากแดดหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน แต่ความจริงแล้วนั้นอากาศร้อนและแสงแดดนั้นมีผลต่อผิวจนสามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวได้มากกว่านั้น โดยสามารถแบ่งปัญหาผิวได้ออกมาเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ การติดเชื้อบริเวณผิวหนัง, กลิ่นตัว, ผิวเสื่อมสภาพและมะเร็งผิวหนัง เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างของปัญหาผิวจากอากาศร้อนเหล่านี้ลองมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาผิวเหล่านี้กัน

  1. การติดเชื้อบริเวณผิวหนัง : ความร้อนและความชื้นของอากาศที่รวมกันคือสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อ เพราะความร้อนและความชื้นเมื่อรวมตัวกันจะทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราได้ดี ซึ่งโอกาสติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกเมื่อผิวถูกแดดเผาควบคู่ไปด้วยแล้วจึงส่งผลให้ปราการผิวอ่อนแอจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการติดเชื้อจากแมลงสัตว์กัดต่อยอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองและนำแบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังที่ไม่แข็งแรงได้ด้วย
  2. กลิ่นตัวแรง : ในความจริงแล้วเหงื่อออกเองจะไม่สร้างกลิ่น แต่การที่เหงื่อออกมากเกินในสภาพอากาศที่ร้อนก็สามารถสร้างแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคได้เป็นอย่างดี เพราะอากาศร้อนเมื่อเจอความชื้นจากเหงื่อทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทั้งนี้ความชื้นบนผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่เหงื่อออกง่ายหรือเสียดสีได้ง่าย อาจนำไปสู่การติดเชื้อราได้ด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดกลิ่นกายได้ และหากอุณหภูมิยิ่งสูงขึ้นและเหงื่อออกมากขึ้นจะส่งผลให้มีกลิ่นตัวเพิ่มขึ้นตาม
  3. ผิวเสื่อมสภาพจากการถูกแดด : อากาศร้อนมาควบคู่กับรังสีอัลตราไวโอเลตแสนอันตรายที่สามารถทะลุผ่านผิวหนังและสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างที่สำคัญ เช่น คอลลาเจนและเส้นใยอีลาสติน ที่มีส่วนช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นดูกระชับ เมื่อโครงสร้างเหล่านี้ถูกทำลายจึงส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และสูญเสียความกระชับ รวมถึงการเกิดเม็ดสีที่มากขึ้นจนกลายเป็นฝ้ากระ และความร้อนและชื้นของสภาพอากศก็จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น เนื่องจากอากาศแบบนี้จะทำให้ผิวขาดน้ำง่ายกว่าปกติ ซึ่งตามมาความแห้งกร้านและเกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลาย
  4. มะเร็งผิวหนัง : สาเหตุของมะเร็งผิวหนังสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งเชื้อชาติ พันธุกรรม ภาวะภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ แต่ในสภาพอากาศที่ผสมผสานระหว่างอากาศที่ร้อนจัดและการสัมผัสแสงแดดที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังให้สูงขึ้นไปด้วย

ปัญหาผิวทั้ง 4 กลุ่มในแต่ละประเภทต่างก็มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป มีตั้งแต่การทานยาปฏิชีวนะไปจนถึงการผ่าตัด แต่การดูแลผิวให้สุขภาพแข็งแรงด้วยการป้องกันดูแลผิวจากอากาศร้อนและความชื้นจะเป็นหนทางดีที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องพบกับปัญหาผิวเหล่านั้น และนี่คือเคล็ดไม่ลับในการดูแลผิวให้แข็งแรงในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ อย่างอยู่หมัด

  • ทาครีมกันแดด: ใช้ครีมกันแดดในวงกว้างที่มีปัจจัยป้องกันแสงแดดสูง (SPF) ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ทาให้ทั่วผิวที่สัมผัส รวมทั้งใบหน้า ลำคอ แขน และขา ทั้งนี้ทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากเหงื่อออกยามออกกลางแจ้งหรือว่ายน้ำ
  • หาที่ร่ม: หากต้องออกกลางแจ้งควรเลี่ยงการรับแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนที่แสงแดดแรงที่สุด ควรอยู่ในที่ร่มเช่นต้นไม้ หรือที่กำบังในรูปแบบอื่นๆ เช่นร่มกันรังสียูวีเพื่อเพิ่มร่มเงา ป้องกันแสงแดดโดยตรง และลดการสัมผัสรังสียูวี
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด: เสื้อผ้าหลวมๆ น้ำหนักเบาที่ทำจากผ้าทอเนื้อแน่นคือตัวเลือกที่ดี ทั้งนี้ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อลดแสงแดด อย่าลืมสวมหมวกปีกกว้างและแว่นกันแดดเพื่อป้องกันใบหน้าและดวงตา
  • รักษาความชุ่มชื้นจากภายใน: ผิวขาดน้ำคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปราการผิวอ่อนแอจนติดเชื้อได้ ควรดื่มน้ำมาก ๆ ตลอดทั้งวันเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก การให้ความชุ่มชื้นที่เพียงพอจะช่วยรักษาสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติได้
  • เติมความชุ่มชื้นจากสกินแคร์: นอกเหนือจากการดื่มน้ำเพื่อเสริมความชุ่มชื้นจากายในแล้ว การทามอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาในทุกวันก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ทั้งนี้เนื้อสัมผัสที่เบาบางจะช่วยลดการอุดตันได้
  • อาบน้ำเย็น: เลือกอาบน้ำเย็นเพื่อความสดชื่นเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายและปลอบประโลมผิว หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนเพราะจะทำให้ผิวขาดน้ำและแห้งกร้านได้
  • เลือกทานอาหารที่เสริมให้สุขภาพแข็งแรงจากภายใน : รักษาสมดุลของร่างกายให้แข็งแรงด้วยการเลือกทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุในการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและส่งเสริมสุขภาพกายแข็งแรงควบคู่กันไปด้วย

ทั้งนี้สภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ดังนั้น คุณควรเลือกปรับวิธีการดูแลให้เหมาะสมกับผิวของตัวเอง และปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรงหากมีปัญหาผิวเกิดขึ้นเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างตรงจุด

ที่มา :

https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1066918
https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-secrets/routine/prevent-summer-skin-problems

https://thedermgrouppartners.com/8-common-summer-skin-problems-and-how-to-fix-them/ https://www.bebeautiful.in/all-things-skin/everyday/summer-skin-problems-and-how-to-treat-them