Smartphone Face ริ้วรอยถามหาเพราะใช้สมาร์ทโฟน

ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วสิ่งหนึ่งที่เปรียบเสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ของการดำรงชีวิต ก็คือสมาร์ทโฟน เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มีความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต เป็นตัวช่วยทั้งในการทำงานและสร้างความบันเทิงในชีวิต ทั้งนี้มีผลสำรวจเมื่อต้นปี พ.ศ. 2564 พบว่าในคนไทยผู้มีอายุระหว่าง 16-64 ปีนั้นใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนโดยเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายไม่น้อย หลายคนอาจคุ้นเคยอาการเจ็บปวดจากสมาร์ทโฟน เช่น โครงสร้างของกระดูกสันหลังคด สุขภาพตาที่ต้องจ้องแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน อาการนิ้วล็อกจากการเคลื่อนไหวท่าเดิมเป็นประจำ แต่ความจริงแล้วสมาร์ทโฟนยังส่งผลทำร้ายผิวด้วย จนเรียกกันว่า Smartphone Face

Smartphone Face นั้นเกิดจากท่าทางการก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ ที่ไม่เพียงทำสรีระโครงสร้างของกระดูกค้มตามท่าทางแล้วยังกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นรอบคอได้อีกด้วย โดยริ้วรอยเหล่านั้นเกิดจากรอยพับตามแนวนอนที่คอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการคงท่าทางดังกล่าวเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อคอจะสั้นลง ขากรรไกรต้องทำงานหนัก ผลที่ตามมาคือ อิลาสติกซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างให้ผิวดูเรียบเนียนในบริเวณดังกล่าวยืดกว่าปกติ จังทำให้แก้มบริเวณกรามย้อย กล้ามเนื้อมุมปากตกลง จนใบหน้าอาจดูผิดแปลกไปจากเดิม

เช็กตัวเองว่าเริ่มมีอาการ Smartphone Face แล้วหรือยัง ลองส่องกระจกดู หากคุณมีอาการได้แก่ แก้มป่อง, ผิวหน้าหย่อนคล้อย, คางสองชั้น, หุ่นกระบอก, ร่องแก้ม, เส้นลึก (ริ้วรอย) รอบปาก อาจหมายถึงคุณกำลังเป็น Smartphone Faceแล้วล่ะ ทั้งนี้มีเทคนิคในการดูแลตัวเองง่ายๆ เพื่อรักษาและหลีกหนีอาการ Smartphone Face ให้ไกล 3 วิธีดังนี้

  • ปรับปรุงท่าทางการใช้งานสมาร์ทโฟน : ปรับท่าทางการใช้งานให้เหมาะสมจากเดิมที่ต้องก้มหน้าเพื่อใช้งาน ให้ปรับให้สมาร์ทโฟนถูกยกมาไว้ระดับสายตา โดยที่คางต้องขนานกับพื้น และหมั่นพักสายตาบ่อยๆ เพื่อปรับปรุงท่าทางไม่ให้ผิดลักษณะจากที่ควรเป็น
  • ออกกำลังกายใบหน้าด้วย Face Yoga : การออกกำลังกายบริหารใบหน้ามีหลากหลายท่า แต่ท่าที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไขช่วยลดเหนียงและลดเลือนริ้วรอยรอบลำคอได้เป็นอย่างดี คือท่า “ยีราฟ” ที่เริ่มจากการตั้งคอให้ตรง มองตรงไปข้างหน้าและใช้ปลายนิ้ววางบริเวณต้นคอ พร้อมเอียงศีรษะไปด้านหลัง ค้างท่าทางดังกล่าวไว้ 4-5 วินาที แล้วนำศีรษะมาสู่ตำแหน่งเดิม หลังจากนั้นให้ยื่นริมฝีปากล่างออกไปให้ไกลที่สุดในขณะที่วางนิ้วบนกระดูกไหปลาร้า ชี้คางขึ้นขณะดึงมุมปากลง กดค้างไว้ 4 – 5 วินาที แล้วกลับสู่ท่าทางปกติ ทั้งนี้ ควรทำซ้ำ 2- 3 ครั้ง
  • เลือกฉีดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ : การเติมเต็มผิวในร่องริ้วรอยลึกด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไฮยารูลอนิคแอซิด จะช่วยคืนความอิ่มเอิบให้กับบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สมาร์ทโฟน ทั้งริ้วรอยข้างจมูก (ร่องจมูก) ริ้วรอยริมฝีปากถึงคาง อีกทั้งยังช่วยยกกระชับแก้มขึ้นเพื่อให้ดูนุ่มนวลและอ่อนกว่าวัย ทั้งนี้ควรปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์สวยตามที่ต้องการแต่ยังคงความปลอดภัยแก่ตัวคุณ

ที่มา :

https://www.forbes.com/sites/nextavenue/2013/06/03/beware-your-cell-phone-it-causes-wrinkles-cosmetic-surgeons-say/?sh=1ec21b3b28ca

https://www.thesun.co.uk/fabulous/5880902/smartphone-wrinkles-premature-ageing/

https://www.elle.com/beauty/news/a43443/neck-wrinkles-phone-posture/

https://www.drchatson.com/blog/best-solutions-for-smartphone-face.html

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/865244

https://www.cosmopolitan.in/beauty/news/a5057/smartphone-face-not-only-real-its-pretty-scary

https://www.nubodyequipment.com/post/2016/05/16/-techneck-and-smartphone-face-is-your-smartphone-to-blame-for-sagging-skin

http://www.justamorous.com/what-is-smartphone-face-and-how-to-avoid-it/