ฟิลเลอร์ 101 เรื่องเบสิคที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

เรื่องความสวยหยุดกันไม่ได้จริงๆ ยิ่งอายุเริ่มเข้าเลข 3 ปัญหาริ้วรอยบริเวณใบหน้าก็เริ่มเข้ามากวนใจ แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณดูอ่อนกว่าวัย ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ ทรีทเม้นท์ ทำสปาใบหน้า รวมถึงวิธีทางการแพทย์อย่างการอย่างการฉีดฟิลเลอร์ ที่กำลังได้รับความนิยม

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหูจากการเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ที่ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำมีความชุ่มชื้น แต่การฉีดฟิลเลอร์นั้นคือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยารูรอนิค แอซิด ให้กับช่องว่างของเซลล์ผิว หรือแก้ไขการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหน้าเนื่องจากการบาดเจ็บ หรือเสื่อมสภาพตามวัย เช่น แผลเป็น ริ้วรอยลึกปานกลางถึงลึกมาก และรอยยุบร่องแก้ม

ผลลัพธ์ของการฉีดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์

ผิวดูเรียบเนียน เอิบอิ่ม ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกแห่งวัยต่างๆได้ทั่วใบหน้า เช่น ขมับตอบ แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ยังรวมไปถึงช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียว

ประเภทของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) มี 3 ประเภท

  • ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler) อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์กลุ่ม ไฮยารูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid)
  • ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent filler) สามารถอยู่ได้นานกว่าแบบชั่วคราว คือตั้งแต่ 2-5 ปี แต่จะปลอดภัยน้อยกว่า ตัวอย่างฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร เช่น แคลเซียมฟิลเลอร์ ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม ไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Hydroxyapatite) ปัจจุบันยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาจะสามารถทำการแก้ไขได้ยาก
  • ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent filler) ค่อนข้างอันตรายเนื่องจากเป็นสารเติมเต็มพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน ผิวไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ จนอาจเกิดผลเสียอย่าง เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อย ย้วยผิดรูป ถ้าในกรณีที่ทำมาแล้วอยากเอาออกจะต้องมั่นใจว่านำออกมาหมด ไม่อย่างนั้นจะมีผลข้างเคียงได้ในระยะยาว

อันตรายมากแค่ไหน?

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ขึ้นทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) มีเพียงชนิดเดียวคือ สารไฮยารูรอนิค แอซิด ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ปลอดภัย สามารถสลายหมด 100% และ ฉีดใหม่ซ้ำได้เรื่อยๆ โดยไม่เป็นอันตราย เพราะ สารไฮยารูรอนิค แอซิด เป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในผิวหนังของคน ทั้งนี้ควรจะปรึกษากับแพทย์โดยตรงในการฉีดฟิลเลอร์ และดูยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ให้ดี ว่าผ่าน อย. แล้วจริงหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบจากเว็บไซต์ของ อย. โดยตรง

ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ในความจริงแล้วผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้แทบทุกส่วนบนร่างกาย สำหรับบริเวณที่นิยมจะเป็นบริเวณทั่วใบหน้า ตั้งแต่หน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา ใต้ตา จมูก ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง และการฉีดเพื่อปรับรูปใบหน้า ทั้งนี้การฉีดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ไม่เพียงจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. แต่ควรเลือกแพทย์ที่ชำนาญการในเรื่องนี้ด้วย เพราะ บนใบหน้าคนเรามีแขนงเส้นเลือดแดงจำนวนมากสานกันเป็นร่างแหกระจายอยู่ หากฉีดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ผิดพลาดอาจเข้าไปอุดตันแขนงเส้นเลือดแดงที่ไหลไปหล่อเลี้ยงดวงตา ส่งผลข้างเคียงถึงการมองเห็น ไปจนถึงขั้นตาบอดได้

สวยด้วยฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก ทั้งนี้เราควรจะศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์สวยตามที่ต้องการแต่ยังคงความปลอดภัยไว้อยู่นั่นเอง

ที่มา :

http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=6&cat=74&content_id=412

https://workpointtoday.com/%E0%B9%87%E0%B9%8Dhyaluron/

https://www.americanboardcosmeticsurgery.org/procedure-learning-center/non-surgical/injectable-fillers-guide/

https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/admin/article_files/1166_1.pdf