ส่องเทรนด์การดูแลผิวแห่งปี 2023 รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์
ในแต่ละปีมักจะมีเทรนด์ความงามเข้ามาอัพเดทให้ผู้บริโภคได้ดูแลผิวกันอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ของสกินแคร์ หรือเมคอัพก็มีให้เห็นมาโดยตลอด แต่สำหรับเทรนด์ปี 2023 นั้นเรียกได้ว่ามีแนวทางที่เน้นไปในเรื่องของความยั่งยืนที่มากขึ้นและชัดเจน เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส ภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพผิวไม่น้อย สำหรับใครที่กำลังทำความเข้าใจเทรนด์ความงามของปี 2023 อยู่ LG Aesthetics Thailand สรุปมาให้เข้าใจกันว่าจะเลือกใช้สกินแคร์หรือเมคอัพแบบไหนมาเสกให้ผิวสวยปังตามเทรนด์กัน
- สกินแคร์และเมคอัพที่ได้มากกว่าหนึ่งความสามารถ
ก่อนหน้าที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้น เรียกได้ว่าเทรนด์การดูแลผิวหลากขั้นตอนเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่เมื่อในสภาวะที่ต้องกักตัวการดูแลตัวเองจึงมีปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจงอย่างความแห้งกร้านเมื่อต้องอยู่ในแต่ในบ้านที่มีความชื้นต่ำตลอดทั้งวันเป็นต้นจึงทำให้ผู้คนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาเฉพาะจุดมากขึ้น และเมื่อกลับมาใช้ชีวิตปกติที่วุ่นวายกว่าเดิม เพราะต้องกลับมาเดินทางไปทำงานท่ามกลางไวรัสที่ยังคงมีอยู่จึงทำให้คนมองหาขั้นตอนการดูแลผิวที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติอเนกประสงค์ที่ได้ทั้งในการรักษาสุขภาพและปกป้องผิวจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์อย่างมาก เช่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่สามารถสครับและบำรุงผิวได้ด้วยส่วนผสมที่ใกล้เคียงกับการใช้เซรั่ม ไพรเมอร์ และมาสก์ในครั้งเดียว
ในแง่ของเมคอัพเองก็เช่นกัน ทั้งจากการทำงานแบบ work from home และการทำงานภายใต้หน้ากากอนามัยทำให้ใครหลายคนลดการใช้เมคอัพ หรือลดการเมคอัพที่ซับซ้อนลงไปในชีวิตประจำวัน รวมถึงในแง่ของค่าใช้จ่ายที่ต้องการจะลดลงเมื่อไม่ได้แต่งหน้าเช่นเก่า เรียกได้ว่าเซฟทั้งเงิน เซฟทั้งพื้นที่แบบสุดๆ
- สกินแคร์และเมคอัพแบบไฮบริด ลูกผสมสกินแคร์และเมคอัพ
นอกเหนือจากเทรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามในแง่ที่ตอบโจทย์แบบอเนกประสงค์แล้ว ผลิตภัณฑ์แบบไฮบริดอย่างเมคอัพที่สามารถบำรุงผิวก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมา หลากหลายแบรนด์เริ่มจัดทำผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ส่วนผสมที่มีความสามารถในการบำรุงผิวแล้วจึงเพิ่มเติมในส่วนของเม็ดสีเพื่อให้การใช้งานในแบบเมคอัพนั่นเอง เรียกได้ว่าเติมความเปล่งประกายในขณะที่ให้ประโยชน์ในการบำรุงและปกป้องผิวไปในคราวเดียวกัน
ความจริงแล้วสกินแคร์และเมคอัพแบบไฮบริดไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว แต่จะดีกว่าที่เคยเป็นมาในปัจจุบันมีทั้งครีมกันแดดที่สามารถเป็นเมคอัพเบสได้ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงป้องกันมลภสวะในขณะที่ช่วยเสกผิวให้ดูโกลว์ไปในคราวเดียวกัน
- ผิวสุขภาพดีด้วยปราการผิวแข็งแรง
ปราการผิวดีเท่ากับสุขภาพผิวที่แข็งแรง ความจริงนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย เนื่องจาก เกราะป้องกันผิวเป็นชั้นป้องกันที่อยู่ชั้นนอกสุดของผิวหนังและทำหน้าที่เป็นกลไกป้องกัน ต่อต้านปัจจัยกดดันจากสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะ รังสียูวี และแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสภาวะแวดล้อมที่ทุกคนต้องได้เจอในปัจจุบัน รวมถึงยังเป็นเคล็ดของผิวที่อ่อนเยาว์ด้วย จึงทำให้เทรนด์ของการดูแลเสริมความแข็งแรงของปราการผิวยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม และมาสก์ จะเน้นให้ความสำคัญในการรักษาสมดุลไมโครไบโอมของผิว และจะหลีกเลี่ยงส่วนผสมใดๆ เช่น แอลกอฮอล์ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ และอื่นๆ ที่ไม่เป็นมิตรกับไมโครไบโอม นอกจากนี้ยังเน้นไปยังส่วนผสมอย่างเซราไมด์ ไนอาซินาไมด์ และกรดไฮยาลูโรนิกเพื่อปรับปรุงกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของผิว ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวทำให้ปราการผิวแข็งแรงมากขึ้น
- สกินมินิมอลสู่การเปลือยผิวให้หายใจ
ลืมผิวที่หนักไปด้วยสกินแคร์และเมคอัพไปได้เลยเพราะเทรนด์ปีนี้ยังคงเน้นความง่ายและหลีกเลี่ยงการเติมจนเต็มผิวหน้า แต่เปลี่ยนมาเป็นเพิ่มพื้นที่ให้ผิวได้หายใจ แน่นอนว่าสกินแคร์รูทีนที่หลายคนคุ้นเคยอาจจะเหลือง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน แค่เพียงล้างหน้าให้สะอาด แก้ปัญหาผิวด้วยเซรั่มและเติมเต็มความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในขณะที่การแต่งหน้าที่เน้นความกระจ่างใสเบาบางเหมือนไม่ได้แต่งหน้านั้นจะใช้เพียงเซรั่มและมอยเจอร์ไรเซอร์แบบ tint รวมถึงกันแดดแบบ tintแต่มีค่า SPF แบบปังๆ แทนการใช้รองพื้นเนื้อแมตต์เนื้อหนา
นี่เป็น 4 เทรนด์ที่น่าจะได้รับความนิยมตลอดทั้งปี 2023 และน่าตื่นเต้นว่าในปีต่อๆ ไปจะเป็นเทรนด์แบบไหนลองมาลุ้นดูกัน
ที่มา :
https://www.countryandtownhouse.com/style/health-and-beauty/skincare-trends-2023/
https://www.allure.com/story/makeup-trends-2023
https://www.mindbodygreen.com/articles/beauty-wellness-trends
https://www.mindbodygreen.com/articles/biotech-beauty-wellness-trend
