Anti Aging Guide รับมือกับริ้วรอยด้วยไกด์การดูแลผิวแบบครบวงจร

ผิวของเรามีอายุมากขึ้นตามกาลเวลา สำหรับบางคน กระบวนการชรานั้นช้าและคงที่ ในขณะที่บางคนสามารถเร่งตัวได้อย่างรวดเร็ว อัตราการแก่ของผิวหนังแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมถึงพันธุกรรม วิถีชีวิต และการสัมผัสกับปัจจัยกดดันจากสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้โครงสร้างใต้ผิวที่แข็งแรงและยืดหยุ่นของผิวจะเริ่มอ่อนแอลง และกรดไฮยาลูโรนิก อีลาสติน และคอลลาเจนก็จะหมดไปตามธรรมชาติ

ริ้วรอยแห่งวัยนั้นความจริงแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นแต่90 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเกิดจากอิทธิพลภายนอกอย่างการเลือกใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่ดี และการขาดการออกกำลังกาย ตลอดจนปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ รังสีแสงสีฟ้า และรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ เพื่อให้คุณได้มีผิวเรียบเนียนและดูอ่อนกว่าวัย นี่คือเทคนิคในการดูแลผิวของคุณทั้งในแง่การเลือกใช้สกินแคร์และการปรับไลฟ์สไตล์ของคุณ ลองมาทำกันดูแล้วจะรู้ว่าการดูแลตัวเองให้ดูอ่อนเยาว์สามารถทำได้ไม่ยาก

Skincare Guide : สกินแคร์ที่ควรเลือกใช้ในการดูแลผิวเพื่อต่อต้านริ้วรอยควรมุ่งเน้นไปที่การป้องกันความเสียหายต่อผิวหนัง การซ่อมแซมความเสียหายที่มีอยู่ และส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน ลองปรับสกินแคร์รูทีนให้เป็นไปตามนี้กันดูเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย ทั้งนี้ ความสม่ำเสมอและความอดทนเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลผิวเพื่อต่อต้านริ้วรอย อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนก่อนจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน

  1. ทำความสะอาด: ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนเพื่อขจัดสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกอื่นๆ ออกจากผิวของคุณ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนและขัดหน้า เพราะอาจทำให้ระคายเคืองและทำลายผิวได้
  2. สครับผิวผลัดเซลล์ผิว : ใช้สครับที่อ่อนโยนเหมาะกับสภาพผิวของคุณเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและปรับผิวให้กระจ่างใส
  3. ใช้เซรั่มต้านอนุมูลอิสระ: สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอี สามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  4. ทาครีมเรตินอล: เรตินอลเป็นวิตามินเอรูปแบบหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนและลดการปรากฏของเส้นริ้วและริ้วรอย
  5. ทามอยซ์เจอไรเซอร์: เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่คิดค้นขึ้นสำหรับประเภทผิวของคุณและมีส่วนผสมของสารต่อต้านริ้วรอย เช่น กรดไฮยาลูโรนิก
  6. ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา: ผิวรอบดวงตามีความบางและบอบบาง และมักเป็นจุดแรกในการแสดงสัญญาณแห่งวัย ครีมบำรุงรอบดวงตาสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระชับผิวในบริเวณนี้ได้
  7. ทาครีมกันแดด: แสงแดดสามารถทำลายผิวของคุณและเร่งกระบวนการชรา ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 เพื่อปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายของดวงอาทิตย์

Treatment Guide : นอกจากการเลือกใช้สกินแคร์ การนำเทคโนโลยีเพื่อคงความอ่อนเยาว์ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ได้รับความนิยม ทั้งนี้ควรเลือกวิธีการอย่างเหมาะสมและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยาญก่อนเลือกทำทรีตเท้นต์กับตัวคุณ

  1. โบท็อกซ์: โบท็อกซ์เป็นวิธีการรักษาแบบฉีดที่สามารถใช้เพื่อลดริ้วรอยและริ้วรอยบนใบหน้า โบท็อกซ์ทำงานโดยการปิดกั้นสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหดตัว และทำให้ริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้าเรียบขึ้น ผลของการรักษามักจะอยู่ได้ 3-6 เดือน
  2. ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ : เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวของเราจะสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ให้โครงสร้างและความยืดหยุ่นแก่ผิว การสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินสามารถนำไปสู่ริ้วรอย ร่องลึก และการสูญเสียปริมาตรของใบหน้า ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่เข้าไปแทนที่ปริมาตรที่หายไปในใบหน้า เติมริ้วรอยและร่องลึก และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว
  3. การผลัดผิวด้วยเลเซอร์: การผลัดผิวด้วยเลเซอร์ใช้ลำแสงเลเซอร์เพื่อขจัดผิวหนังชั้นบนสุดที่เสียหายออก ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่และ เผยให้เห็นผิวใหม่ที่เรียบเนียนด้านล่าง สามารถใช้รักษาริ้วรอย รอยด่างแห่งวัย และความไม่สมบูรณ์ของผิวอื่นๆ

Lifestyle Guide : อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า ปัจจัยภายนอกเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณมีผิวแก่ การปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตให้ห่างไกลริ้วรอยคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมอง ลองปรับพฤติกรรมชีวิตให้เป็นไปตามนี้กันดู

  1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: รับประทานผลไม้ ผัก และเมล็ดธัญพืชในปริมาณมากในอาหารของคุณ อาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารอื่นๆ ที่สามารถช่วยปกป้องผิวของคุณและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ: การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพผิว
  3. นอนหลับให้เพียงพอ: ตั้งเป้านอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเพื่อช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง
  4. เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการแก่ก่อนวัยอันควร
  5. จัดการความเครียด: ความเครียดเรื้อรังสามารถเร่งกระบวนการชราและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย ลองใช้เทคนิคการลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการออกกำลังกาย

 

ที่มา

https://www.webmd.com/beauty/ss/slideshow-look-younger-secrets

https://skincarebutik.com/ultimate-guide-to-aging-skin/

https://www.glitzandglambytiff.com/blog/7-tips-for-creating-anti-aging-skin-care-routine

https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/anti-aging-routine-skincare