เคล็ดลับ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว ให้สวยเป๊ะ

งานแต่งงานคืออีกหนึ่งวันที่สาวๆ ให้ความสำคัญเพื่อให้เป็นผู้ที่สวยที่สุดในงาน พร้อมเฉิดฉายในชุดแต่งงานในเวอร์ชั่นผิวเนียนสวย หน้าปังเป๊ะ หุ่นเพรียวเข้ากับชุดได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยการเตรียมความพร้อมเพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ความงามที่สวยที่สุด คุณก็ควรจะปรนนิบัติผิวตามไทม์ไลน์เช่นเดียวกับกระบวนการเตรียมตัวอื่นๆ ในงานแต่งงาน ดังนั้น อย่าลืมความสำคัญของการดูแลผิวสำหรับเจ้าสาวและเวลาที่ผิวของคุณเริ่มแสดงผลลัพธ์จริงๆ การเริ่มต้นแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ

การเตรียมงานแต่งงานสำหรับเจ้าสาวจะไม่สมบูรณ์ หากขาดการเตรียมความงามของเจ้าสาวให้พร้อม ดังนั้นเช็กเวลาในการเตรียมตัวให้พร้อมแล้วเริ่มกันเลย!

6-12 เดือนก่อนวันงาน

เตรียมผิว : ฟื้นฟูระบบการดูแลผิว หากการทำ Skincare Routine ของคุณไม่ได้สม่ำเสมอเท่าที่ควร ถึงเวลาต้องเข้มงวดสักหน่อย ควรทำความสะอาด และให้ความชุ่มชื้นทุกเช้าและกลางคืนอย่างสม่ำเสมอ—และอย่าลืมสครับผิวสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์ หากคุณมีปัญหาผิวอาจจะลองปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเรื่องผิวพรรณเพื่อให้คุณมีผิวกระจ่างใสให้ทันในวันงานแต่งงานของคุณ

เตรียมหุ่น : เพื่อให้คุณมีหุ่นเป๊ะแบบสุขภาพดี การค่อยๆ ควบคุมน้ำหนักในระยะยาวนอกจากจะได้ผลลัพธ์ที่ดีตรงใจแล้วยังช่วยให้คุณได้มีสุขภาพผิวที่ดีเปล่งปลั่ง ร่างกายก็จะดูเพรียวแบบสุขภาพดี สิ่งที่ควรลงมือทำคือเริ่มต้นวางแผนโภชนาการอย่างเหมาะสมและออกกำลังกาย

ปรับไลฟ์สไตล์ : เพราะการใช้ชีวิตที่ดีอย่างการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ห่างไกลจากความเครียดคือตัวช่วยที่ดีที่ทำให้ผิวพรรณและรูปร่างออกมาดูดี หากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่แสนยุ่งก็ลองพยามปรับตารางเวลาของคุณดู

3 เดือนก่อนวันงาน

ฉีดผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ : การเติมความงามด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนกว่าวัย รวมถึงลดริ้วรอย เติมเต็มริมฝีปากและแก้มก่อนวันงานสัก 4 สัปดาห์ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่เพียงที่คุณจะได้รูปบักษณ์ที่สวยตรงใจที่สุดแล้ว การเติมเต็มในช่วงเวลานี้ยังได้เผื่อถึงผลข้างเคียงและอาการบวมแดงแล้วด้วย

โบท็อกซ์ : แม้ว่าการโบท็อกซ์จะใช้เวลาการทำหัตเวชประมาณ 15 นาที แต่ผลของโบท็อกซ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นทันที โดยส่วนมากต้องใช้เวลา 3-5 วันเพื่อให้ผลของโบท็อกซ์เริ่มออกฤทธิ์ และต้องใช้เวลาสองสัปดาห์เต็มเพื่อดูผลที่สมบูรณ์ของการฉีด ดังนั้นหากคุณต้องการทำโบท็อกซ์ควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผน

เตรียมผม : เจ้าสาวหลายคนมีปัญหาเรื่องสุขภาพผม รวมถึงสีผม เพื่อให้วันงานแต่งงานมีสุขภาพผมที่ดี อย่ามองข้ามการทรีทเม้นต์เส้นผม และการลองทำสีผมที่คาดหวังเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดตอนใกล้วันงานจนไม่สามารถเปลี่ยนผมแห้งแตกปลายให้กลับมามีสุขภาพดีได้

1 เดือนก่อนวันงาน

Make up Trial : เพื่อให้วันงานแต่งงานได้มีลุคที่สวยตรงใจการที่คุณได้ลองเลือกทดสอบการแต่งหน้าและทำผมหลายแบบก็จะได้ช่วยให้คุณได้ลุคที่ดีที่สุดในวันงาน อย่าลืมบุ๊ควันกับช่างแต่งหน้าของคุณ ยิ่งในช่วงปลายปี และต้นปีที่งานแต่งงานที่มีงานแต่งงานเป็นจำนวนมาก คุณอาจจะพลาดกับช่างแต่งหน้าขั้นเทพที่คุณหวังไว้ได้

เข้าพบทันตแพทย์ : วันงานแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวต้องฉีกยิ้มอวดฟันสวยตลอดทั้งวัน คุณควรนัดพบทันตแพทย์เพื่อเช็กสุขภาพฟัน ขูดหินปูน พร้อมด้วยฟอกฟันให้ขาวสวยในวันสำคัญเพื่อให้สีฟันเข้าที่ดูสม่ำเสมอ

1 อาทิตย์ ก่อนวันงาน

แว็กซ์ขน : หากคุณต้องการผิวที่เรียบเนียน กล้าโชว์วงแขนเยียนเรียวขาสวย อย่าลืมที่จะแว็กซ์ขนทั่วร่างกายก่อนวันงานสัก 2-3 วัน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนยังคงอยู่ และไม่ร่องรอยความแดงของผิวที่ได้รับผลกระทบจากการแว็กซ์

พักผิวหน้าและเติมย้ำให้ผิว : โค้งสุดท้ายก่อนวันงาน พยายามหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าให้ได้มากที่สุด และพยายามทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นมากที่สุด ไม่อย่างนั้นแล้วพอถึงวันงานอาจจะทำให้ใบหน้าของคุณดูโทรมได้

ที่มา :

https://www.brides.com/gallery/wedding-beauty-best-tips

https://www.kamaayurveda.com/blog/bridal-skin-care/

https://www.stylecraze.com/articles/wedding-beauty-tips-for-brides/