PM 2.5 ฝุ่นร้ายที่ทำร้ายทั้งสุขภาพกายและผิว

ปัจจุบันปัญหามลภาวะทางอากาศเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องรับมือ เนื่องจากมลพิษทางอากาศมีเพิ่มมากขึ้นจนส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพร่างกายภายใน และผิวหนัง จากเดิมมลภาวะในอากาศต่างๆ เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต ไฮโดรคาร์บอน โอโซน และควันบุหรี่อาจเป็นที่คุ้นเคย แต่ล่าสุดฝุ่นร้ายตัวจิ๋วอย่างฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  คือ หนึ่งในมลภาวะที่ร้ายแรงและควรหลีกเลี่ยงอย่างมาก

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เป็นมลพิษทางอากาศที่อนุภาคขนาดเล็กในอากาศ สังเกตได้ง่ายๆ หากบริเวณที่คุณอาศัยอยู่นั้นมีทัศนวิสัยลดลง และคล้ายกับมีหมอกนั้นอาจเป็นไปได้ว่าพื้นที่ของคุณนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทั้งนี้ มีการศึกษาวิจัยพบว่าฝุ่นขนาดเล็กนั้นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าฝุ่นรวม เนื่องจากสามารถผ่านเข้าไปในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง โดยมักจะมีปริมาณมากในช่วงฤดูหนาว

PM2.5 ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) นั้นมีความอันตรายจากอนุภาคที่มีขนาดเล็ก จึงสามารถเดินทางลึกเข้าไปในทางเดินหายใจถึงปอด ผลกระทบในระยะสั้นนั้นอาจทำให้เกิดการระคายเคืองตา จมูก คอ และปอด อาจมีการไอ จาม น้ำมูกไหล และหายใจถี่ร่วมด้วย ทั้งนี้หากคุณอยู่ภายนอกอาคารและการสัมผัสกับอนุภาคละเอียดบ่อยครั้งและนานครั้งอาจส่งผลต่อการทำงานของปอดและโรคประจำตัวที่มีอยู่แย่ลง เช่น โรคหอบหืดและโรคหัวใจ ระบบทางเดินหายใจและหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เนื่องจากการทำงานของปอดลดลง ซึ่งผู้ที่มีความไวต่อฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการหายใจและหัวใจ เด็ก และผู้สูงอายุ

ไม่เพียงแต่สุขภาพกายภายในที่จะได้รับผลเสีย ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ยังส่งผลกระทบต่อผิวหนังด้วย เนื่องจากผิวเป็นเกราะป้องกันชั้นนอกสุด มลพิษทางอากาศจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันจนเกิดสารอนุมูลอิสระ ส่งผลให้แอนติบอดี้ของผิวหนังมีปริมาณลดลง รวมถึงการที่ระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนังอ่อนแอลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลเสียต่อความชุ่มชื้นของผิวหนัง และอาจนำไปสู่การเป็นผื่นแพ้และการเกิดสิวได้มากยิ่งกว่าผู้ที่ไม่ได้สัมผัสกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) นอกจากนี้ มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยดุสเซลดอร์ฟในเยอรมนีได้เผยออกมาว่ามลภาวะจากฝุ่นละอองช่วยเพิ่มจุดด่างอายุและริ้วรอยได้ไม่ต่างจากการได้รับรังสียูวี การทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการสูบบุหรี่

เคล็ด(ไม่)ลับปกป้องผิวจากมลภาวะทางอากาศ

  • สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกไปผจญภัย ขอแนะนำหน้ากากN95เพื่อป้องกัน PM 2.5 โดยเฉพาะ
  • เลี่ยงการออกกำลังกายในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (5) อาจจะออกกำลังกายที่บ้านหรือที่ฟิตเนสสตูดิโอ แทนที่การออกกำลังกายในที่สาธารณะ
  • ครีมกันแดดนั้นจำเป็นอย่างมาก ไม่เพียงจะปกป้องผิวจากแสงแดด แต่ยังลดความเสี่ยงจากมลพิษทางอากาศ
  • เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีวิตามินซี วิตามินอี แอสตาแซนธิน และโคเอ็นไซม์ Q10 เพื่อปกป้องกันเกิดสารอนุมูลอิสระ
  • กินผักและผลไม้หลากสีสันเพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานเพียงพอที่จะต่อสู้กับมลภาวะในอากาศ

ที่มา :

https://www.epa.gov/pm-pollution/health-and-environmental-effects-particulate-matter-pm

https://www.samitivejhospitals.com/article/detail/pm-2-5-spots-and-skin-allergies

https://ijdvl.com/effects-of-air-pollution-on-the-skin-a-review/

https://www.health.ny.gov/environmental/indoors/air/pmq_a.htm

https://www.iqair.com/us/blog/health-wellness/air-pollution-effects-on-skin